โรคเลือดออกในสมองมีอันตรายต่อชีวิตหรือไม่ อาการเป็นอย่างไร และการป้องกันโรคนี้จะต้องทำอย่างไรบ้าง

2015-08-25 16:24:39  จำนวนผู้เข้าชม
โดย ".จารุวิทย์ บุญวงค์


      

โรคเลือดออกในสมอง เป็นโรคที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน พบมากในผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และผู้ชายมีโอกาสเป็นมากกว่าผู้หญิงประมาณ 2-3 เท่า         

          สาเหตุหลักมาจากภาวะความเสื่อมของหลอดเลือดสมองจากอายุที่มากขึ้นร่วมกับโรคประจำตัว ที่สำคัญคือ โรคความดันโลหิตสูง การสูบบุหรี่เป็นเวลานาน ภาวะแข็งตัวของเลือดบกพร่องรวมถึงการใช้ยาป้องกันเลือดแข็งตัวบางชนิด แต่ในปัจจัยทั้งหลาย อายุที่มากขึ้นร่วมด้วยโรคความดันโลหิตสูงเป็นเวลานาน ยังคงเป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคนี้

อาการของโรคเลือดออกในสมอง จะมีลักษณะสำคัญคือ เฉียบพลันและรุนแรง อาการเฉียบพลันที่สังเกตได้ เช่น ปวดศีรษะรุนแรง เฉียบพลัน มักมีอาการร่วมคือ คลื่นไส้ อาเจียน ชัก หรือกระทั่งหมดสติ อ่อนแรง อัมพาต หรือปากเบี้ยวฉับพลัน ชาเฉียบพลัน พูดลำบากฉับพลัน ตามัวมองไม่เห็นเฉียบพลัน เสียการทรงตัว และบ้านหมุนวิงเวียนเฉียบพลัน
หากสงสัยว่าตนเองหรือคนใกล้ตัวมีอาการข้างต้น ให้พบแพทย์ด่วน เพราะก้อนเลือดในสมองอาจทำให้แรงดันในโพรงกะโหลกศีรษะสูง เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ ผู้ป่วยจะซึมลงจนหมดสติ หรือก้อนเลือดกดเบียดบริเวณสำคัญ เช่น ก้านสมอง ทำให้อาการทรุดลงรวดเร็ว 
นอกจากนี้ ก้อนเลือดอาจทำลายเนื้อสมองที่สำคัญโดยตรง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการมากขึ้นได้ ดังนั้น การรักษาผู้ป่วยอย่างเร่งด่วนจึงเป็นสิ่งจำเป็น อาจต้องใช้การผ่าตัดเพื่อนำก้อนเลือดออก หรือใช้ยาลดแรงดันในโพรงกะโหลกศีรษะ ลดสมองบวม ทั้งนี้ขึ้นกับขนาด ตำแหน่ง และความรุนแรงของโรคที่ผู้ป่วยเป็นอยู่

โรคเลือดออกในสมอง ไม่มีวิธีรักษาใดจะดีกว่าการป้องกัน กล่าวคือ เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ ต้องระวังควบคุมรักษาโรคความดันโลหิตสูงให้เคร่งครัด ลดปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่น หยุดสูบบุหรี่ โรคนี้นับเป็นภัยเงียบที่ก่อให้เกิดอันตราย การมีความรู้ความเข้าใจจึงมีความสำคัญ 

เอกสารอ้างอิง

เลือดออกในสมอง. หมอชาวบ้าน [อินเตอร์เน็ต]. [วันที่เข้าถึง 25 ส.ค.2558]. เข้าถึงได้จาก: http://www.doctor.or.th/ask/detail/15497